วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2554

ภัยจากมนุษย์และภัยธรรมชาติ

นับตั้งแต่เริ่มปี พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ดูเหมือนว่าโลกของเราจะประสบภัยพิบัตินานัปประการ
ทั้งจากภัยธรรมชาติ อันได้แก่ แผ่นดินไหว สึนามิ น้ำท่วม และภัยจากมนุษย์ด้วยกัน ทั้งสงคราม
กลางเมือง และการก่อการจลาจล
สิ่งเหล่านี้ เป็นลางบอกเหตุอะไรหรือไม่ ลองมาดูกันดีกว่า




















คำทำนาย















มีคำทำนายมากมายที่บอกกล่าวถึงหายนะของโลกมนุษย์ แต่ผู้เขียนจะขอยกตัวอย่างเพลงยาวพยากรณ์กรุงศรีอยุธยา ก็แล้วกัน โดยส่วนหนึ่งของเพลงยาวดังกล่าวมีว่า

















"...คือเดือนดาวดินฟ้าจะอาเพท อุบัติเหตุเกิดทั่วทุกทิศาน
มหาเมฆจะลุกเป็นเพลิงกาล เกิดนิมิตพิศดารทุกบ้านเมือง
พระคงคาจะแดงเดือดดั่งเลือดนก อกแผ่นดินจะบ้าฟ้าจะเหลือง
ผีป่าก็จะวิ่งเข้าสิงเมือง ผีเมืองนั้นจะออกไปสู่ไพร
....ทั้งเข้าก็จะยากหมากจะแพง สารพันจะแห้งแล้งเป็นถ้วนถี่
จะบังเกิดทรพิษมิคสัญญี ฝูงผีจะวิ่งเข้าปลอมคน
กรุงประเทศราชธานี จะเกิดการกุลีทุกแห่งหน
จะอ้างว้างอกใจทั้งไพร่พล จะสาละวนทั่วโลกหญิงชาย
...จะรบราฆ่าฟันกันวุ่นวาย ฝูงคนจะล้มตายลงเป็นเบือ..."


(ปรีดี พิศภูมิวิถี.จากบางเจ้าพระยาสู่ปารีส.กรุงเทพฯ: มติชน, ๒๕๕๑ น.๑๐๔-๑๐๕)


























เป็นเรื่องที่น่าแปลกว่าเหตุการณ์ตามเพลงยาวดังกล่าวซึ่งทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับอาณาจักรอยุธยา กลับไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับกรุงศรีอยุธยาเท่านั้นแต่เกิดขึ้นทั้งโลกในเวลานี้ ไม่น่าเชื่อว่าคนในยุคนั้นจะสามารถทำนายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างถูกต้องถึงเพียงนี้






















เหตุวิบัติในปัจจุบัน















โลกในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้าในทางวิทยาการในด้านต่าง ๆ และในอนาคตก็จะเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นกว่านี้อีก แต่ความก้าวหน้าดังกล่าว เป็นเพียงความก้าวหน้าทางด้านวัตถุเท่านั้น หาได้รวมถึง
ความก้าวหน้าในเรื่องจิตใจของมนุษย์ไม่ จิตใจของมนุษย์ในยุคปัจจุบันกลับต่ำทรามลงอย่างน่าใจหาย หากได้อ่านได้ฟังข่าวทั้งในประเทศและต่างประเทศ ก็จะพบว่ามีแต่ข่าวร้าย ข่าวอาชญากรรม
ข่าวก่อการร้าย ข่าวปัญหาสังคม ข่าวปัญหาเศรษฐกิจ ข่าวภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้นอยู่ทุกวันจนกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมโลกไปเสียแล้ว ลองดูข่าวที่เด่นดังนับตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาก็ได้ครับ ถ้าไม่นับข่าวพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียมกับนางสาวเคต มิดเดลตันแล้ว ข่าวที่ตามมาก็มักจะเป็นข่าวที่ไม่ดี



















-ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์









-สึนามิถล่มญี่ปุ่นและผลกระทบที่ตามมาจากโรงงานไฟฟ้าพลังปรมาณู









-สงครามกลางเมืองในลิเบีย









-การก่อการจลาจลในอังกฤษ




















-การสังหารหมู่ในประเทศนอร์เวย์









-เหตุการณ์ก่อความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย









-การปะทะกันด้วยกำลังทหารระหว่างไทยกับกัมพูชา









-ความขัดแย้งระหว่างจีนกับเวียดนาม









-วิกฤติเศรษฐกิจและการประท้วงในประเทศกรีซ
















ฯลฯ























ทำไมถึงมีแต่ข่าวประเภทนี้ละครับ เป็นไปได้ไหมครับว่า ที่โลกมนุษย์เป็นเช่นนี้เพราะเกิดขึ้นจากน้ำมือของมนุษย์เอง ที่เห็นได้ชัดก็คือ การทะเลาะวิวาท การก่ออาชญากรรม การก่อการจลาจล การก่อการร้าย การทำสงคราม การทุจริต การฉ้อราษฎร์บังหลวง ล้วนแต่เป็นผลมาจากฝีมือของมนุษย์ทั้งสิ้น ส่วนภัยพิบัติทางธรรมชาตินั้นถึงแม้ว่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แต่มนุษย์เราก็มีส่วนในการเร่งกระบวนการให้เกิดภัยธรรมชาติถี่ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตัดไม้ทำลายป่า การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือย การสร้างโรงงานอุตสาหกรรม การใช้รถยนต์จำนวนมากมายมหาศาล การทิ้งขยะลงในที่สาธารณะ และแม่น้ำลำคลอง การสร้างเขื่อน การสร้างตึกสูงจำนวนมาก การล่าสัตว์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น ภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลมาจากการดำเนินกิจกรรมของมนุษย์เรานี่แหละครับ
















ผลที่ตามมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ทำให้เกิดหายนะขึ้นทั้งต่อโลกมนุษย์และต่อธรรมชาติ ทำให้สภาพแวดล้อมเสียสมดุล ทำให้สังคมโลกเกิดความปั่นป่วน หากยังคงปล่อยให้สภาพการณ์เป็นเช่นนี้อยู่ต่อไป โลกก็คงถึงคราววิบัติ มนุษย์และสรรพสัตว์ก็อาจถึงคราวสูญพันธุ์ เหตุการณ์ที่ผู้คนถืออาวุธเข้ารบราฆ่าฟันกันแบบที่เห็นในภาพวาดตามกำแพงวัดทำนายเหตุการณ์ในยุคสิ้นพระพุทธศาสนา ก็จะเกิดขึ้น เราอยากให้เป็นเช่นนั้นอยู่อีกหรือ?















หนทางแก้ไข














หากไม่อยากให้เหตุการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ มนุษย์ทุกคนต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น โดยเริ่มต้นจากตัวเองก่อน แล้วจึงสอนคนอื่นให้ทำตาม














เริ่มจากอะไรล่ะ ?














เริ่มจากการปลูกฝังจิตสำนึกในการรักโลก และรักสันติภาพให้เกิดขึ้นในโลกนี้อย่างจริงจังเสียก่อน ซึ่งมีอยู่หลายวิธีด้วยกัน ทั้งการสอนในชั้นเรียน การรณรงค์ผ่านทางสื่อต่าง ๆ การจัดกิจกรรม






จำได้ว่าสมัยยังเป็นเด็กเคยดูการ์ตูนอเมริกันเรื่อง Captain Planet และเรื่อง Free Willy ซึ่งการ์ตูนเรื่องแรกเกี่ยวข้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ส่วนเรื่องที่สองก็เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน แต่เน้นที่ความผูกพันระหว่างมนุษย์กับวาฬเพชรฆาต และสรรพสัตว์ นอกจากนี้ ในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนก็มีอยู่หลายตอนด้วยกันที่กล่าวถึงเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อม การ์ตูนเหล่านี้เป็นแนวทางหนึ่งในการปลูกฝังให้เด็กและผู้ใหญ่ (ที่ชอบดูการ์ตูน) มีจิตสำนึกในการรักษาสภาพแวดล้อมและรักสัตว์ นอกจากนี้การสนับสนุนให้ใช้วิทยาการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานจากธรรมชาติที่ไม่ทำลายสภาพแวดล้อมก็เป็นหนทางหนึ่งในการรักษาสภาพแวดล้อมเช่นกัน






วิธีการที่ดีที่สุดในการปลูกฝังคนไม่ให้ทำลายสิ่งแวดล้อมและไม่ให้ใช้ความรุนแรงต่อกัน ก็คือ การปลูกฝังคำสอนทางด้านศีลธรรมให้กับคนทุกระดับ โดยเฉพาะคำสอนทางพระพุทธศาสนา ซึ่งสอนให้คนรักสันติ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ไม่ฆ่า ไม่ประทุษร้ายต่อคนและสรรพสัตว์ ไม่ลักขโมย ไม่ดื่มสุรา ไม่พูดเท็จ ไม่พูดส่อเสียด ไม่ประพฤติผิดในกาม ฯลฯ




ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องช่วยจรรโลงโลกใบนี้ให้กลับมาน่าอยู่เหมือนที่เคยเป็นมาเหมือนในอดีต เพราะถ้าไม่ช่วยกันแล้ว โลกนี้ก็คงกลายเป็นดาวที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของอารยธรรมที่เคยรุ่งเรือง และกลายเป็นดาวแห่งความตายที่ไร้สิ่งมีชีวิตอยู่อาศัยในที่สุด



คงต้องกลับมาถามตัวเราเอง เหมือนกับที่รุ่นพี่ที่ทำงานผมคนหนึ่งเคยถามผม (อย่างกวน) ว่า


"อยากมีวันพรุ่งนี้มั๊ย !"



ถ้าอยากมี ก็ต้องช่วยกันครับ