วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พุทธชยันตี (๒) : การสร้างสังคมแห่งสันติสุข

           หลังจากที่พระมหาบุรุษได้ตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ด้วยพระบริสุทธิคุณ
พระปัญญาคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์ได้เผยแพร่พระธรรมคำสั่งสอนซึ่งส่งผลเป็นการปฏิวัติสังคมในสมัยนั้น แต่การปฏิวัติดังกล่าวไม่เหมือนกับการปฏิวัติสังคมในประวัติศาสตร์โลกส่วนใหญ่
เนื่องจากเป็นการปฏิวัติสังคมโดยสันติวิธี สร้างสังคมแห่งสันติสุขและความเสมอภาคขึ้นในโลก ทั้งนี้ การสร้างสังคมแห่งสันติสุขนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัย ๒ ประการ คือ
๑) วิธีการเผยแผ่พระธรรม  และ
๒) หลักธรรมที่ทรงสั่งสอนแก่ชาวโลก

           ๑) วิธีการเผยแผ่พระธรรม  พระพุทธองค์ทรงเผยแผ่พระธรรมโดยใช้ปัญญาและเหตุผลเป็นหลักในการแสดงพระธรรมเทศนา และการตอบปัญหาข้อสงสัยของบุคคลอื่น ไม่ทรงใช้วิธีการข่มขู่ บังคับ หรือกล่าวให้ร้ายบุคคลอื่นหรือศาสนาอื่นแต่อย่างใด  และไม่ฉวยโอกาสในความเดือดร้อนของผู้อื่น เมื่อทรงแสดงกาลามสูตรแก่ชาวกาลามะ ก็ทรงให้หลักและข้อคิดแก่ชาวกาลามะ ให้นำไปพิจารณาตรึกตรองเอง บางครั้งทรงใช้กุศโลบายในการสั่งสอน เช่น ทรงขอให้หญิงที่สูญเสียบุตรของตนไปนำเมล็ดผักกาดมาจากบ้านที่ไม่มีคนตายมาเพื่อจะช่วยชุบชีวิตบุตร ครั้นเมื่อหญิงนั้น
ไม่สามารถหาเมล็ดผักกาดมาจากบ้านที่ไม่มีคนตายได้ จึงทรงสั่งสอนให้หญิงผู้นั้นเห็นถึงความจริงในชีวิต มีบางครั้งที่พระองค์ทรงแสดงฤทธิ์บ้างเพื่อกำราบบุคคลผู้มีความอหังการ แต่สุดท้ายแล้วพระองค์จะทรงสั่งสอนด้วยความเมตตา จนบุคคลนั้นกลับตัวกลับใจหันมานับถือพระพุทธศาสนา  เช่นในกรณีการสั่งสอนองคุลีมาล เป็นต้น พระสงฆ์สาวกของพระองค์ก็ทรงเผยแผ่หลักธรรมด้วยวิธีการนี้เช่นกัน
นอกจากนี้แล้ว พระพุทธเจ้าและพระสาวกยังให้เสรีภาพแก่บุคคลอื่นด้วยว่าจะหันมานับถือศาสนาพุทธหรือไม่ และเปิดโอกาสให้สามารถพิสูจน์ตรวจสอบพระองค์ พระธรรม และพระสงฆ์ได้ ดังนั้น การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม อย่างแท้จริง

           ๒) หลักธรรมที่ทรงสั่งสอน เป็นหลักธรรมที่สร้างความสงบให้แก่สังคม และสร้างความสงบให้แก่จิตใจของมนุษย์โดยอาศัยการควบคุมจิตใจและพฤติกรรมของบุคคลในสังคม กล่าวคือ พระพุทธองค์ทรงมองเห็นว่าสังคมจะเป็นอย่างไร ดำเนินไปทางไหน ย่อมขึ้นอยู่กับความประพฤติของผู้คนในสังคม ดังนั้น ในชั้นต้น จึงทรงสั่งสอนหลักธรรม หลักความประพฤติปฏิบัติสำหรับการอยู่ร่วมกันของบุคคลในสังคม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของกฎแห่งกรรม เทวธรรม ศีล (ควบคุมการกระทำทางกายและวาจาไม่ให้ก่อความเดือดร้อนแก่ตนเองและผู้อื่น) ฆราวาสธรรม (ธรรมสำหรับการดำเนินชีวิตที่สงบสุข) สังคหวัตถุและพรหมวิหาร (หลักธรรมเพื่อให้บุคคลในสังคมเกื้อกูลซึ่งกันและกัน) ทศพิธราชธรรม (หลักธรรมเพื่อการบริหารจัดการปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข) กุศลกรรมบถ (หลักธรรมสำหรับการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมโดยสันติ) สัปปุริสธรรม (ธรรมสำหรับบุคคลที่เป็นคนดี) ฯลฯ ซึ่งการปฏิบัติตามหลักธรรมเหล่านี้ เป็นการส่งเสริมให้บุคคลในสังคมไม่เบียดเบียนคนอื่น (และสิ่งมีชีวิตอื่น)  เป็นการส่งเสริมให้บุคคลไม่ละเมิดกฎเกณฑ์ในสังคม เป็นการส่งเสริมให้บุคคลรู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และเป็นการส่งเสริมให้บุคคลมีพื้นฐานทางจิตใจที่ดีงาม
              
                ในชั้นสูง พระพุทธองค์ทรงสอนให้บุคคลรู้จักการฝึกจิตเป็นระดับไปตั้งแต่การหัดระงับความทะยานอยาก จนถึงการเพียรเพ่งดับความคิดปรุงแต่งเพื่อการบรรลุธรรม เป็นการสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในจิตใจของบุคคล เมื่อบุคคลมีจิตใจที่สงบและดีงามแล้วก็จะลดละบาปกรรม และสร้างแต่บุญกุศล ยังประโยชน์ให้แก่คนทั้งหลาย

                 อนึ่ง หลักพุทธธรรมนั้นมีลักษณะเป็นระบบและเป็นองค์รวม ควบคุมการกระทำทั้งทางกาย ทางวาจา และทางจิตใจ ตัวอย่างเช่น เรื่อง ทาน นั้น เป็นทั้งหลักธรรมที่ส่งเสริมให้บุคคลรู้จักการเสียสละแบ่งปันสิ่งของให้แก่บุคคลอื่น (อามิสทาน - ลดละโลภะ) ส่งเสริมให้รู้จักการให้อภัย (อภัยทาน - ลดละโทสะ) และส่งเสริมการเผยแพร่หลักธรรมที่ถูกต้องเพื่อประโยชน์แก่คนอื่น (ธรรมทาน - ลดละโมหะ ) มงคลสูตร สอนเรื่องความประพฤติปฏิบัติของบุคคลทั้งต่อสังคมและต่อตนเองเป็นระดับชั้นขึ้นไป เป็นต้น

                ด้วยปัจจัยทั้งสองประการนี้ ส่งผลให้สังคมชาวพุทธเป็นสังคมที่มีความสงบสุข เป็นสังคมที่มีแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นสังคมแห่งรอยยิ้ม ดังเช่นประเทศไทยในอดีตที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "สยามเมืองยิ้ม" อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากสังคมเกษตรกรรมไปเป็นสังคมอุตสาหกรรมที่เน้นการผลิตและการบริโภค ทำให้สังคมในปัจจุบันเป็นสังคมที่มีแต่ความรีบเร่ง ไม่ใส่ผู้อื่น เห็นความสำคัญของวัตถุและเงินทองมากกว่าความสงบสุขทางจิตใจ ในสภาพสังคมเช่นนี้ บุคคลไม่ค่อยใส่ใจในการปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมและจารีตประเพณีที่ดีงาม เราจะฟื้นฟูสภาพสังคมที่ดีงามในอดีตขึ้นมาได้อย่างไร เราจะรักษาพระพุทธศาสนาอย่างไร โปรดติดตามทัศนะของผู้เขียนได้ในตอนต่อไป
              
(๑) ขอขอบคุณข้อมูลในเรื่องของหลักพุทธธรรมต่าง ๆ จากเว็บไซต์  wikipedia ภาคภาษาไทย 

       http://th.wikipedia.org/wiki

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น