วันเสาร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

วิจารณ์ ลา ฟลอร่า novel เล่ม ๑

                            ในปัจจุบันมีการ์ตูนไทยหลายเรื่องที่ได้รับความนิยม หนึ่งในนั้นก็คือเรื่อง ลา ฟลอร่า โรงเรียนป่วนก๊วนเจ้าหญิง ซึ่งเป็นการ์ตูนเสริมความรู้ที่ได้รับความนิยมมากจนถึงกับได้รับการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ และได้ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เนื่องจากเป็นการ์ตูนที่มีภาพที่สวยงาม เนื้อเรื่องที่สนุกสนาน ตัวละครที่โดดเด่น พร้อมการสอดแทรกความรู้ทางด้านวัฒนธรรมประเพณีและศีลธรรมเบื้องต้น ได้อย่างลงตัว ผู้เขียนยอมรับว่านับตั้งแต่ได้อ่านเล่มแรกและเล่มที่สองแล้ว ก็รู้สึกติดใจจนต้องหาโอกาสอ่าน (ภาคหลัก) ให้ได้ทุกเล่ม  
                           และในตอนนี้ การ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้รับการจัดทำในรูปแบบของวรรณกรรมเยาวชนแล้ว  ในคราวนี้จึงขอวิพากษ์วิจารณ์ ลา ฟลอร่า ภาควรรณกรรมเยาวชนกันหน่อยดีกว่าเป็นอย่างไร

                           หลังจากอ่านจบแล้ว บอกได้เลยว่า   "ยอดเยี่ยมมากเลยครับ" ทั้งภาพ ทั้งเนื้อหา ทั้งภาษา ทั้งตัวละคร และทั้งความรู้ที่แทรกเข้ามา ถ้าเป็นการสอบวัดผลก็สมควรได้คะแนนเต็มครับ แต่ผมให้แค่ ๙๖ จาก ๑๐๐ คะแนน อ้าว !   หักเป็นคะแนนเป็นค่าธรรมเนียมรึ ? ไม่ใช่ครับ แต่เป็นข้อที่ผมเห็นว่ายังมีความบกพร่องบางประการเท่านั้น (เป็นความเห็นส่วนบุคคล ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ) ถ้าอย่างนั้นมาดูกันดีกว่าว่า ที่ให้ไม่เต็มเป็นเพราะอะไร ดูไปทีละส่วนกันเลยครับ

                        ส่วนของภาพ ต้องขอบอกว่าทางทีมงาน สเปซ แซลมอน สตูดิโอ ยังคงวาดภาพออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และภาพทั้งหลายทั้งภาพหน้าปก ภาพหลังปก ภาพในเล่มสามารถสื่อทั้งเหตุการณ์ในเนื้อเรื่องและอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างดียิ่ง ดังเช่น ภาพของสามสาวที่กำลังกระโดดออกมาจากเครื่องบิน (หน้า ๖) ภาพที่ทิวาเตะผ่าหมากลูกชายครูใหญ่โรงเรียน (หน้า ๑๕) ภาพสามสาวและเจ้านิลกำลังปิกนิก (หน้า ๘๙) และภาพผลงานการจัดดอกไม้ของตัวละครทั้งห้า (บทที่ ๑๔) เป็นต้น นอกจากนี้ ภาพหน้าปกก็แสดงให้เห็นถึงความเป็นตัวเอกของคนไทย เนื่องจากภาพของทิวาที่อยู่หน้าสุดและยังใหญ่ที่สุดอีกด้วย ส่วนของภาพนี้เองที่เป็นตัวดึงดูดให้เด็กจำนวนมากรวมถึงกระผมหลงรักผลงานชุดนี้เข้าอย่างถอนตัวไม่ขึ้น จึงขอให้คะแนนในส่วนนี้ไป ๒๐ คะแนนเต็ม

                        ส่วนของเนื้อหา แก่นเรื่องของในตอนนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับดอกไม้ ซึ่งทางทีมงานสามารถถ่ายทอดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับดอกไม้ออกมาได้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นชื่อของสถาบันการศึกษา เกาะอันเป็นที่ตั้งของสถาบันการศึกษาซึ่งมีลักษณะคล้ายดอกไม้ที่บานแล้ว ชื่อของห้องที่สัมพันธ์กับชื่อดอกไม้  ชื่อของผู้อำนวยการโรงเรียน ชื่อของตัวละครหลักทั้งห้า ภาพประกอบที่มีรูปดอกไม้อยู่ในหน้าแรกของบทเกือบทุกบท การทดสอบของเหล่านักเรียนเจ้าหญิงที่ใช้ทั้งเรื่องของการจัดดอกไม้ และความรู้เกี่ยวกับดอกไม้ มาใช้ในการวัดผลเลือกห้อง

                      ในส่วนของการดำเนินเรื่องนั้นก็ทำได้ดีมาก การเริ่มเรื่องที่ใช้ฉากที่สามสาวกระโดดออกจากเครื่องบินก่อนที่จะได้เห็นโรงเรียนลา ฟลอร่า นั้น ก็เป็นเริ่มเรื่องที่ทั้งเร้าใจและกระตุ้นให้คนอ่านเกิดความสนใจว่าทำไมทั้งสามคนถึงต้องกระโดดออกจากเครื่องบิน และเรื่องราวต่อจากนั้นจะเป็นอย่างไร ก่อนที่จะย้อนกลับไปกล่าวถึงที่มาของเรื่องราวโดยเริ่มจากการที่ "ทิวา" ตัวเอกของเรื่องมีเหตุที่จะต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนลา ฟลอร่า  ก่อนที่จะได้รู้จักกับ "ยูริ" และต่อมาก็ได้รู้จักกับ "เหมยฮัว" และคนอื่น ๆ อย่างไร ทั้งสามคนต้องออกผจญภัยเพื่อตามหาดอกไม้ที่จะนำมาใช้ในการสอบอย่างไร และทิวาและผองเพื่อนรู้จักการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างไร เมื่อทิวาพบว่าดอกไม้ที่ตนนำมาใช้ในการสอบเละไปแล้ว
                       การดำเนินเนื้อเรื่องนั้นมีความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบ การเริ่มต้นของทุกบทมีความสม่ำเสมอด้วยคำพูดของใครคนใดคนหนึ่ง และยังมีความสมเหตุสมผลเนื้อเรื่องนั้น มีการอธิบายให้ทราบถึงประวัติความเป็นมาของสถาบันการศึกษา และสถานที่ต่าง ๆ ในสถาบันการศึกษา

                       อย่างไรก็ตาม เป็นส่วนของเนื้อเรื่องนี้เองที่ยังคงมีความบกพร่องที่ทำให้ผู้วิจารณ์ต้องขอหักคะแนนออกไปบ้าง เนื่องจากในเนื้อหานั้น ไม่ได้ให้ความกระจ่างชัดในเรื่องของหลักเกณฑ์และวิธีการคัดสรรเด็กหญิงจากทั่วทุกมุมโลกให้มาเรียนต่อที่โรงเรียนลา ฟลอร่า ในกรณีของทิวาปรากฏเพียงแต่ว่าผู้อำนวยการโรงเรียน ลา ฟลอร่า ได้ติดต่อกับผู้อำนวยการโรงเรียนประถมที่ทิวาเรียนอยู่ และให้ทุนการศึกษาแก่ทิวา และมีข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า ไอริณ แม่ของทิวาเป็นนักเรียนเก่าของโรงเรียน ลา ฟลอร่า เท่านั้น และมีคำถามว่าทำไมการส่งอุปกรณ์การสื่อสารและการเรียนมาให้ทิวาต้องใช้วิธีทิ้งลังทะลุหลังคาบ้านของทิวาด้วย ข้อที่ยังไม่มีคำอธิบายที่กระจ่างชัดอีกข้อก็คือ ทำไมโรงเรียนลา ฟลอร่า จึงดูเป็นสถาบันการศึกษาที่ดูลึกลับจนต้องมีทางพิเศษซ่อนอยู่ในสนามบิน และเจ้าหน้าที่ของสนามบินไม่รู้จัก ในเมื่อโรงเรียนนั้นตั้งอยู่บนเกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ตามเนื้อเรื่อง) ซึ่งอยู่ใกล้กับทวีปยุโรป ทวีปแอฟริกา และทวีปเอเชีย เกาะเองก็มีขนาดไม่ต่ำกว่า ๕๐๐ ตารางกิโลเมตร (อ้างจากหน้า ๖๒) แถมยังมีลูกสาวของบุคคลสำคัญอย่างลูกสาวประธานาธิบดีฝรั่งเศส (นาซิสซ่า) ลูกสาวประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา (อ้างจากหน้า  ๓๕) และทำไมทางโรงเรียนถึงไม่ส่งเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนให้ไปคอยต้อนรับนักเรียนที่สนามบิน (ถ้าไม่เจอยูริแล้ว ทิวาจะได้ไปโรงเรียนลา ฟลอร่า ไหมนี่) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ หวังว่าคงจะได้รับความกระจ่างชัดในนวนิยายเล่มต่อ ๆ ไป

และสุดท้ายในตอนที่มีการบรรยายถึงโซนต่าง ๆ ของโรงเรียนลา ฟลอร่า ไม่ทราบว่าหอพักของนักเรียนคลาสเคาน์เทส อยู่ในโซนไหนครับ จึงต้องหักออก ๔ คะแนน ด้วยประการฉะนี้

                        ส่วนของภาษา ภาษาที่ใช้ในหนังสือเล่มนี้เป็นภาษาที่อ่านง่าย สื่อความหมายได้อย่างตรงไปตรงมา สมกับเป็นภาษาที่ใช้ในวรรณกรรมเยาวชน  การบรรยายเนื้อหานั้นทำได้ดี และการพรรณนาถึงสถานที่ต่าง ๆ  ก็ทำให้สามารถจินตนาการถึงภาพของสถานที่นั้น ๆ ได้ และคำบรรยายบางช่วงบางตอนก็ใช้ถ้อยคำที่สามารถดึงดูดใจผู้อ่านได้มากเลย อย่างในตอนที่เหมยฮัวอธิบายถึงอาหารที่เธอทำถวายองค์ไทเฮานั้น ชื่ออาหารก็แสนจะสะดุดตาคนอ่านทั้งด้วยความหมายและด้วยคำคล้องจอง ยิ่งอ่านตอนที่เหมยฮัวอธิบายถึงสรรพคุณอาหารแล้ว ก็ให้รู้สึกอยาก (แย่ง) อาหารเสียนี่กระไร ในตอนนำเสนอการจัดดอกไม้ของเด็กสาวทั้งห้าก็เป็นอีกตอนหนึ่งที่ใช้ภาษาในการบรรยายให้เห็นถึงลักษณะของการจัดดอกไม้ที่สะท้อนอุปนิสัยใจคอของเด็กสาวทั้งห้าได้อย่างดีเยี่ยม  ดังนี้ จึงขอให้คะแนนในส่วนนี้ไป ๒๐ เต็ม

                        ส่วนของตัวละคร บุคลิกลักษณะของตัวละครแต่ละตัวทั้งนักเรียนเจ้าหญิงทั้งห้าคน และครูบาอาจารย์นั้นก็ยังคงเอกลักษณ์ของตัวละครนั้นได้เหมือนอย่างในภาคการ์ตูนไม่มีผิดเพี้ยน ไม่ว่าจะเป็นความร่าเริงสดใส ความซื่อ (บื้อ) และความตะกละของทิวา ความนอบน้อมถ่อมตัวและความรับผิดชอบของยูริ ความโผงผางและตรงไปตรงมาของเหมยฮัว ความฉลาดและเท่ของโรซารี่ ความหยิ่งทระนงและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของชาติตนเองของนาซิสซ่า ความเคร่งครัดในกฎระเบียบของครูมารี ความเจ้าสำอางและมีเสน่ห์ของครูวินเซนต์ ความสุขุมรอบคอบและดูคนเป็นของผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งบุคลิกของตัวละครที่กล่าวมานี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลิกของนักเรียนเจ้าหญิงทั้งห้าคน ดูไปแล้วก็คล้ายกับเป็นตัวแทนของแต่ละชนชาติ เช่น ทิวามีความเป็นกันเองและเข้ากันได้กับเพื่อนทุกคน แต่ก็เป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน และยังทำอะไรช้าอีก สมกับเป็นคนไทยที่มีลักษณะนิสัยเข้ากับคนอื่นได้ง่าย สบาย ๆ มีน้ำใจ แต่ก็ไม่ค่อยมีระเบียบวินัย    ลักษณะนิสัยของยูริก็แสดงให้เห็นถึงนิสัยรับผิดชอบของคนญี่ปุ่น เช่นเดียวกับนาซิสซ่าที่เป็นคนหยิ่ง ก็แสดงให้เห็นอุปนิสัยของคนฝรั่งเศสได้เป็นอย่างดี

เอาไป ๒๐ คะแนน เลยครับ

                        ส่วนของความรู้และคุณธรรม วรรณกรรมเรื่องนี้ถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของดอกไม้ ตั้งแต่เรื่องของตำนานของดอกไม้  พิษและคุณสมบัติทางยาของดอกไม้ การจัดดอกไม้ ปรัชญาและข้อคิดของดอกไม้ และบุคคลสำคัญที่มีผลงานเกี่ยวกับพืชและดอกไม้ ได้อย่างลงตัว ทำให้ผู้ที่ไม่ค่อยจะมีความรู้ในด้านดอกไม้อย่างผู้วิจารณ์ได้รับความรู้ในด้านนี้เพิ่มขึ้น
                         นอกเหนือจากเรื่องของความรู้แล้ว วรรณกรรมเรื่องนี้ยังได้สอดแทรกคุณธรรมและความรับผิดชอบของตัวละครในเรื่องอีกด้วย เริ่มจากทิวาเองที่เป็นผู้มีความโอบอ้อมอารีต่อสัตว์เลี้ยงของเธอ ไม่ยอมให้ใครมารังแกแมวของเธอ การช่วยเหลือยูริที่กำลังจะตัดนิ้วของตนเอง ยูริที่แสดงความรับผิดชอบจากการกระทำของเธอที่ไม่ระมัดระวังทำให้โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่จัดแสดงอยู่ในสนามบินพังด้วยการพยายามตัดนิ้วของตนเอง เหมยฮัว สาวจีนผู้มีอุปนิสัยตรงไปตรงมาและคอยช่วยเหลือเพื่อนที่ได้รับความเดือดร้อน    โรซารี่ซึ่งตอบแทนเพื่อนด้วยการมีส่วนช่วยเหลือแมวของทิวา 

ครูมารีผู้ซึ่งรักษาไว้ซึ่งกฎระเบียบของโรงเรียนอย่างเคร่งครัดและยุติธรรม เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ก็ทำได้ดีอีกเช่นกัน  ให้ ๒๐ เต็ม ครับ

                    สรุปก็คือ ลา ฟลอร่าภาควรรณกรรมเยาวชนเล่มแรกนี้เปิดตัวออกมาได้ดีเยี่ยม แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างตามที่ได้อธิบายไปข้างต้นนั่นแหละครับ  ดังนั้น  หวังว่า ลา ฟลอร่า ภาควรรณกรรมเยาวชนเล่มต่อ ๆ ไป จะได้ปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นครับ   เป็นกำลังใจให้นะครับ


เอ้า ! la la La Flora, La Flora Let's go!
                                                                                                               

                                                                                                         นาย วสุ สรรกำเนิด

                                                                
                                                                                        
               

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น