วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557
นิยายลา ฟลอร่า ตอน คนชาติเดียวกัน
ณ ห้องประชุมของโรงเรียน ลา ฟลอร่า บรรดานักเรียนเจ้าหญิงและเจ้าชายต่างมาชมการแสดงชุดต่าง ๆ ทุกคน ที่จริงเกือบทุกคนต่างรับชมการแสดงด้วยความสุข เว้นเพียงแต่สองคน คือ ทิวา และราตรี
เหมยฮัว "นี่ อาทิวา อาราตรี พวกลื๊อจะทำหน้าบึ้งไปถึงเมื่อไหร่กันน่อ?"
ยูริ "นั่นสิ เจ้าคะ ยูริพลอยไม่สบายใจไปด้วยเลยเจ้าค่ะ"
นาซิสซ่า "ทำหน้าหงิกหน้างอ ไม่หัวเราะ ไม่ปรบมือ เมื่อนักแสดงทำการแสดงเสร็จ ไม่มีมารยาทเลยนะพวกเธอนี่"
โรซารี่ "นี่พวกเธอสองคนมีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า?"
ทิวา "ไม่ใช่เรื่องของเธอซักหน่อย" ทิวาพูดโดยไม่หันมามองหน้าโรซารี่
ราตรี "มิมีปัญหาอันใดดอก"
ยูริ "อย่าพึ่งทะเลาะกันตอนนี้เลยนะเจ้าคะ"
นาซิสซ่า "เฮ้อ! พวกเธอนี่คนชาติเดียวกันมาทะเลาะกันซะได้"
ครูวินเซนต์
"ต่อไปขอเชิญพบกับการแสดงการเล่านิทานและการเปลี่ยนใบหน้าของเพลโต นักเรียนเจ้าชายจากประเทศกรีซครับ"
เพลโต "กาลครั้งหนึ่งมีสะพานแห่งหนึ่งซึ่งทอดตัวข้ามหน้าผาอันสูงชัน ณ ที่แห่งนั้น มีแพะ ๒ ตัว ซึ่งมาจากคนละฟากของฝั่งหน้าผาต้องการเดินข้ามสะพานแห่งนั้นเพื่อไปยังอีกฝั่ง แต่สะพานนั้นสามารถข้ามได้เพียงแค่ตัวเดียว และแพะสองตัวนั้นต่างฝ่ายต่างก็ต้องการข้ามสะพานก่อนอีกตัวโดยไม่มีใครยอมใคร " เพลโตเปลี่ยนหน้าของตนเองให้กลายเป็นแพะหน้าบูดส่งเสียงคำราม
"เมื่อแพะทั้งสองตัวไม่สามารถตกลงกันได้จึงได้วิ่งเข้าหาและปะทะกันกลางสะพาน ด้วยความแคบของสะพานนั้นเอง เป็นเหตุให้แพะทั้งสองตัวต้องตกจากสะพานลงไปในเหวลึกและถึงแก่ความตายทั้งคู่"
เพลโตเปลี่ยนหน้าของตนให้กลายเป็นแพะหน้ายิ้ม ก่อนจะเล่าต่อไป
"ต่อมามีแพะอีกคู่หนึ่งจะข้ามสะพานอีกเหมือนกัน แพะทั้งสองตัวต่างมีความสุภาพและเกรงใจกันอย่างดียิ่ง ต่างฝ่ายต่างเชื้อเชิญให้อีกฝ่ายข้ามสะพานมาก่อน แต่ก็ไม่มีฝ่ายใดยอมข้ามสะพานมาเสียที ผลก็คือ ไม่มีแพะตัวใดที่ได้ข้ามสะพานอีกเช่นกัน"
"หลังจากนั้นมีแพะอีกคู่หนึ่งเดินมาจะข้ามสะพานนั้นอีกเช่นกัน แพะตัวแรกกล่าวเชิญว่า 'ขอให้ท่านผู้มีเขางามจงข้ามสะพานมาก่อนเถิด เราจะขอข้ามทีหลังท่าน' แพะตัวที่สองจึงกล่าวตอบว่า 'ขอบคุณท่านผู้มีขนงาม ข้าพเจ้าขอรับน้ำใจจากท่าน' แล้วแพะตัวที่สองก็เดินข้ามสะพานไปจนถึงอีกฝาก ซึ่งแพะตัวแรกยืนอยู่ แล้วแพะตัวแรกก็จึงเดินข้ามสะพานไปอีกฝั่ง"
ิเพลโตเปลี่ยนหน้ากลับมาเป็นของตนเองเหมือนเดิมก่อนจะสรุปว่า "นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การเอาชนะคะคานกันโดยไม่ยอมกัน ย่อมก่อให้เกิดความพินาศแก่ทั้งสองฝ่าย และการไม่กล้าตัดสินใจ ไม่ยอมทำอะไรก็ย่อมไม่เกิดผลสำเร็จอีกเช่นกัน ดังนั้น การตัดสินใจโดยการยอมให้อีกฝ่ายได้กระทำในสิ่งที่ถูกต้องก่อน ย่อมทำให้เกิดผลสำเร็จครับ"
นักเรียนเกือบทุกคนปรบมือ ยกเว้นก็แต่นักเรียนหญิงจากแดนสยามเมืองยิ้มสองคน
ครูวินเซนต์
"ต่อไปขอเชิญพบกับการบรรเลงไวโอลินจากนักเรียนหญิงผู้สืบเชื้อสายมาจากคีตกวีเบโธเฟน 'เรโอนี่ ฟาน เบโทเฟน' ครับ"
นักเรียนเจ้าหญิงจากเยอรมันนีโค้งคำนับก่อนจะบรรจงสีไวโอลินด้วยท่วงท่าที่สง่างาม เสียงบรรเลงเพลงจากไวโอลินสตราดิวาริอุส (Stradivarius) ดังก้องกังวานไปทั่วหอประชุมสะกดให้ทุกคนที่อยู่ในห้องประชุม ตั้งใจฟังจนจบไปถึงสามเพลงโดยไม่มีใครงีบหลับหรือแสดงอาการง่วงเหงาหาวนอนเลยแม้แต่น้อย เมื่อจบเพลงที่สามแล้ว เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องไปทั่วหอประชุมเป็นเวลานาน
"เพลงสุดท้ายนี้ ชื่อว่า Deutschlandlied (ดอยท์ชลันด์ลีด) เป็นเพลงชาติของเยอรมันนีเชียวนะ" นักเรียนเจ้าชายซึ่งสวมหมวกคาวบอยปีกกว้าง และใส่แว่นตาสีชาเอ่ยขึ้น
"มิเอเล่!" ยูริ เหมยฮัว โรซารี่ นาซิสซ่า ตะโกนขึ้นพร้อมกัน
"จุ๊ ! จุ๊ ! ตอนนี้ฉันคือ โฮนิก"
โรซารี่ "เธอมาทำอะไรที่นี่?"
มิเอเล่ "แอบหนีเสด็จพ่อมาน่ะ เออ เมื่อกี้กล่าวถึงเพลงชาติเยอรมันนีแล้ว รู้ไหมว่า เพลงนี้มีเนื้อร้องที่เยี่ยมมากเลยนะ อย่างเนื้อร้องท่อนแรกมีว่า 'Deutschland, Deutschland über alles,
Über alles in der Welt,
Wenn es stets zu Schutz und Trutze
Brüderlich zusammenhält'
ยูริ "แปลว่าอะไรหรือเจ้าคะ?"
มิเอเล่/ โฮนิก "แปลว่า เยอรมันนี เยอรมันนีเหนือทุกสิ่ง
เหนือสิ่งอื่นใดในโลกา
เพื่อปกปกและรักษา เมื่อแผ่นดินนี้
ยังให้เกิดการตั้งมั่นฉันน้องพี่ร่วมกัน"
เหมยฮัว "ฟังดูรักชาติมากเลยน่อ"
นาซิสซ่า "เพลงชาติฝรั่งเศสก็ปลุกอารมณ์รักชาติเหมือนกันนะ วันหลังจะร้องให้ฟัง"
มิเอเล่/โฮนิก "ชาวเยอรมันเป็นคนรักพวกพ้อง พวกเขาจะนึกถึงส่วนร่วมในชาติก่อนตนเอง มีความสามัคคีอันดีเยี่ยม นอกจากนี้ชาวเยอรมันยังรักในระเบียบวินัยและความถูกต้อง เห็นได้จากบทเพลงท่อนที่สามที่ร้องว่า
'Einigkeit und Recht und Freiheit
Für das deutsche Vaterland!
Danach lasst uns alle streben
Brüderlich mit Herz und Hand!
Einigkeit und Recht und Freiheit
Sind des Glückes Unterpfand;
Blüh' im Glanze dieses Glückes,
Blühe, deutsches Vaterland.'
ซึ่งแปลว่า 'สามัคคี ยุติธรรม เสรีภาพ
เพื่อปิตุภูมิเยอรมันนี !
เพื่อสิ่งเหล่านี้เราจงสู้
ด้วยดวงใจและสองมือฉันน้องพี่ !
สามัคคี ยุติธรรม เสรีภาพ
คือคำปฏิญาณแห่งความเจริญ;
จงรุ่งเรืองด้วยพรแห่งความเจริญนี้เถิด
จงรุ่งเรืองเถิด ปิตุภูมิเยอรมันนี' "
โรซารี่ นาซิสซ่า เหมยฮัว ยูริ "โอ้โห!" หลังจากนั้นทั้งสี่คนก็ไต่ถามสารทุกข์สุขดิบของมิเอเล่และองค์ราชาแห่งอาณาจักรพรอบโพลิส โดยไม่รู้เลยว่า ทิวา และราตรี แอบมองพวกเธอทั้งหมดอยู่
*****
กียุล "นี่ยัยลิงกัง ฉันจะกลับไปบ้าน อยากได้อะไรเป็นของฝากไหม?"
ทิวาทำเพียงแค่ส่ายหน้า
กียุล "ยังอารมณ์ไม่ดีอยู่หรือไง ฮึ ! ถ้าอย่างนั้นเอาอย่างนี้ วันหลังจะทำตัวเป็นไกด์พาไปเที่ยวเกาหลีให้หนำใจไปเลย ดีไหม"
ทิวา "ฉันก็เคยไปเกาหลีแล้วนี่"
กียุล "ไม่ใช่เกาหลีใต้ แต่เป็นเกาหลีเหนือ"
ทิวา "เอ๋! ไปได้ด้วยเหรอ เดี๋ยวถูกยิงเป้าหรอก"
กียุล "ไม่หรอกน่า ฉันจะคุ้มครองเธอเอง อ้าว! หน้าแดงซะแล้ว"
ทิวา "อย่ามายุ่งกับหน้าของฉันน่า แบร่!" ทิวาแลบลิ้นใส่กียุล
กียุล "กลับมาเป็นเหมือนเดิมซะแล้ว ถ้าอย่างนั้นเธอกับราตรีก็รีบคืนดีกันซะสิ"
ทิวา "ไม่ใช่ธุระของนายซักหน่อย"
กียุลถอดแว่นตาออกก่อนจะพูดว่า "เธอรู้ไหมว่าตอนที่ได้ฟังเพลงชาติของเยอรมันนีน่ะ ฉันมีความหวังนะ ฉันหวังว่าสักวัน ชาวเกาหลีจะกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง เพราะไม่ว่าจะเป็นเกาหลีเหนือหรือเกาหลีใต้ พวกเราก็เป็นชาวเกาหลีเหมือนกัน มีเพียงความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกันเท่านั้น ชาวเยอรมันยังเคยทลายกำแพงเบอร์ลินมาแล้ว พวกเราชาวเกาหลีก็จะทำเช่นเดียวกัน"
ฮอรัส "กียุล ได้เวลาขึ้นเรือแล้วขอรับ"
กียุล "ไปก่อนนะยัยลิง แล้วเจอกันใหม่"
ทิวายิ้มรับก่อนจะตามไปส่งที่ท่าเรือ หลังจากที่มองเรือที่ลอยลำออกไปจนลับสายตาแล้ว เธอก็หันกลับไปเห็นราตรียืนมองเธออยู่ แล้วเธอก็ตัดสินใจ ยังไงเธอกับราตรีก็เป็นคนชาติเดียวกัน
ทิวา "ราตรี ฉันว่าเรามาปรับความเข้าใจกันเถอะ"
ราตรีเผยอยิ้มเล็กน้อย เป็นยิ้มที่ดูจริงใจและไม่น่ากลัวเหมือนที่ผ่าน ๆ มา
"มติตรงกัน"
****
คนไทยเจรจากันได้หรือยังครับ
อ้างอิง
เพลงชาติเยอรมันนี http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99
นิทานเรื่องแพะสามคู่กับสะพานในเรื่องนี้ ผมดัดแปลงมาจากนิทานที่เคยอ่านสมัยเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น