จากกรณีที่ไม่สามารถจัดงานวันครูที่จังหวัดนราธิวาสได้เนื่องจากเกรงว่าจะขัดต่อหลักศาสนาอิสลามนั้น ข้าพเจ้าเองกลับมีความคิดเห็นว่า ชาวมุสลิมสามารถร่วมงานวันครูได้โดยไม่ผิดหลักศาสนาอิสลาม และข้าพเจ้ายังมีความเห็นอีกว่าชาวมุสลิมไม่จำเป็นต้องทำลายหรือเคลื่อนย้ายพระพุทธรูปออกไปจากสถานที่ืที่มีชาวมุสลิมอยู่ ข้าพเจ้ามีเหตุผลสนับสนุนดังต่อไปนี้
๑. การที่ชาวมุสลิมต้องมีศรัทธาในพระอัลลอฮฺและปฏิบัติตนตามหลักศาสนาอิสลามอย่างเคร่งครัดนั้น ไม่ได้หมายความว่า ชาวมุสลิมจะต้องปฏิเสธการเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมในศาสนาอื่นโดยสิ้นเชิง เนื่องจาก ศาสนาอิสลามสั่งสอนให้มนุษย์อยู่กันด้วยความเป็นมิตร ละเว้นการรบราฆ่าฟันโดยไม่มีเหตุอันควร การทะเลาะเบาะแว้ง การละเมิดและรุกรานสิทธิของผู้อื่น เน้นความอดกลั้น การให้อภัย ความเท่าเทียม และความเสมอภาคระหว่างมนุษย์ การเคารพสิทธิของผู้อื่น (๑) ซึ่งสามารถแปลความได้ว่าการจะอยู่ร่วมกับศาสนิกชนที่นับถือศาสนาอื่นได้อย่างฉันมิตรนั้น ชาวมุสลิมก็จะต้องให้ความเคารพต่อศาสนสถาน ศาสนวัตถุ และศาสนพิธีของศาสนาอื่น การให้ความเคารพในที่นี้ไม่ได้บังคับถึงขนาดที่ว่าชาวมุสลิมจะต้องงดเว้นไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาอิสลาม เพียงแค่ยอมรับที่จะปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมอันดีงามของศาสนาอื่นเมื่อเข้าไปอยู่ร่วมกับศาสนิกชนของศาสนาอื่นบ้าง อนึ่ง การที่ชาวมุสลิมไม่ได้รับอนุญาตให้ทำความเคารพต่อพระพุทธรูป หรือรูปเคารพของศาสนาอื่นนั้น ก็ไม่มีเหตุอันใดที่ชาวมุสลิมจะต้องทำลายหรือเคลื่อนย้านพระพุทธรูปหรือรูปเคารพของศาสนาอื่น ด้วยเหตุผลที่ได้กล่าวมาข้างต้น
๒. ในทางปฏิบัติชาวมุสลิมในหลายประเทศก็ยังคงรักษาประเพณีของชนชาติตนเองที่มีมาก่อนที่ชนชาตินั้นจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอิสลามไว้โดยไม่มีปัญหาว่าจะขัดต่อหลักของศาสนาอิสลามแต่อย่างใด
เช่น ๒.๑ ในประเทศอิหร่านและแถบเอเชียกลาง ยังคงจัดเทศกาลโนรูส (Norooz) ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นตามหลักศาสนาดั้งเดิมของชาวเปอร์เซีย (ชาวอิหร่าน) อยู่ (๒)
๒.๒ ในประเทศอินโดนีเซีย การแสดงรามายณะและมหาภารตยุทธ ซึ่งเป็นการแสดงเกี่ยวข้องกับศาสนาฮินดู และชาวอินโดนีเซียยังมีวัฒนธรรมการไหว้อันเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามอยู่
๓. ในทางปฏิบัติชาวมุสลิมในหลายประเทศไม่ได้ทำลายหรือโยกย้ายรูปเคารพของศาสนาอื่นหรือทำลาย
ศาสนสถานของศาสนาอื่นออกไปจากดินแดนของตน เช่น
ศาสนสถานของศาสนาอื่นออกไปจากดินแดนของตน เช่น
๓.๑ ในประเทศอียิปต์ ยังคงมีพีระมิด สฟิงซ์ วิหารบูชาเทพเจ้าของชาวอียิปต์โบราณ (ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม) หลายแห่ง
๓.๒ ในประเทศตุรกี มีพิพิธภัณฑ์ซึ่งเคยเป็นศาสนสถานของชาวคริสต์มาก่อน คือ ฮาเกีย โซเฟีย (Hagia Sophia) ถ้ำที่มีภาพเขียนในทางศาสนาคริสต์ที่เกอเรเม (Churches of Göreme, Turkey) ซากวิหารและนครโบราณของชาวกรีกซึ่งมีอยู่จำนวนมาก (๓)
๓.๓ ในประเทศอินโดนีเซีย มีวิหารในศาสนาพุทธ และศาสนาฮินดูอยู่มากมายหลายแห่ง ดังนี้ เป็นต้น
(ส่งผลดีต่อการศึกษาทางโบราณคดีและการท่องเที่ยว ตรงกันข้ามกับการทำลายศาสนสถานและศาสนวัตถุของศาสนาอื่นเป็นการทำลายประวัติศาสตร์ และรากเหง้าของชนชาตินั้น)
๔. การดำเนินนโยบายอยู่ร่วมกับศาสนิกชนในศาสนาอื่นจะทำให้ชาวมุสลิมได้รับการยอมรับมากกว่าการแยกกลุ่ม ลองสังเกตดูได้จากพระเจ้าอักบาร์ (Akbar) แห่งราชวงศ์โมกุล ที่แม้จะทรงนับถือศาสนาอิสลามแต่ก็มีนโยบายที่ผ่อนปรนต่อผู้นับถือศาสนาอื่น ทั้งในเรื่องการอนุญาตให้ผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูซึ่งถูกบังคับให้นับถือศาสนาอิสลามสามารถกลับไปนับถือศาสนาฮินดูได้โดยไม่ต้องโทษประหารชีวิต พระองค์เข้าปฏิบัติตามพิธีกรรมในศาสนาฮินดูหลายอย่าง เช่น การเข้าร่วมเทศกาล Diwali หรือการห้ามการกินเนื้อวัว (ซึ่งชาวฮินดูนับถือว่าเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นพาหนะขององค์มหาเทพศิวะ) (๔) พระองค์เข้าร่วมส่วนในการอภิปรายทางศาสนากับนักปราชญ์ในศาสนาเชนอย่างสม่ำเสมอ (๕) พระองค์จึงได้รับการสรรเสริญจากผู้ที่นับถือศาสนาอื่น
ข้าพเจ้าหวังว่าชาวมุสลิมที่ได้อ่านบทความนี้จะเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อศาสนพิธีของศาสนาอื่น ไม่ทำลายหรือโยกย้ายพระพุทธรูปและรูปเคารพของศาสนาอื่น ไม่ต่อต้านระเบียบห้ามคลุมญิฮาปในโรงเรียนวัด เข้าร่วมในพิธีไหว้ครู ได้ ฯลฯ เพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุขครับ
นาย วสุ สรรกำเนิด
อ้างอิง
(๑) โปรดดู สาส์นแห่งอิสลามที่ถูกส่งมาให้แก่มนุษย์ทั้งมวลมีจุดประสงค์หลัก ๓ ประการ ใน
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A1
(๒) โปรดดู เรื่องของเทศโนรูสได้ที่
http://sameaf.mfa.go.th/th/country/middle-east/tips_detail.php?ID=1842
http://sameaf.mfa.go.th/th/country/middle-east/tips_detail.php?ID=1843
(๓) สามารถอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่เหล่านี้ได้ในเว็บไซต์วิกีพีเดีย (แนะนำภาคภาษาอังกฤษ)
(๔) http://en.wikipedia.org/wiki/Akbar#Religious_policy และ
http://en.wikipedia.org/wiki/Akbar#Relation_with_Hindus
(๕) http://en.wikipedia.org/wiki/Akbar#Relation_with_Jains
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น