วันพุธที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2557
แบบอย่างจากพระพุทธเจ้า (๒) : การระงับสงคราม
สถานการณ์ของโลกนับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันล้วนเต็มไปด้วยสงครามและความขัดแย้ง ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเกินกว่าจะประมาณได้ หากชนชาวโลกยังคงไม่ตั้งมั่นอยู่ในธรรมะและไม่หาวิธีระงับยับยั้งการสงครามแล้ว หายนะจะบังเกิดกับทุกคนบนโลกใบนี้
แล้วเราจะป้องกันการเกิดสงครามได้อย่างไร ลองมาดูตัวอย่างจากพุทธประวัติกันครับ
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นแบบอย่างที่ดีในการระงับยับยั้งการสงคราม เริ่มตั้งแต่ที่พระองค์ปฏิเสธการขึ้นครองราชย์เพื่อเป็นพระเจ้าจักรพรรดิโดยการเสด็จออกผนวช ดังนั้น พระองค์จึงหลีกเลี่ยงฐานะที่จะก่อสงครามเพื่อปราบปรามอริราชศัตรู หรือเพื่อการแผ่ขยายอำนาจออกไปได้
เมื่อพระญาติของพระองค์กำลังจะทำสงครามแย่งชิงน้ำจากแม่น้ำโรหิณี ก็ทรงเข้าไปห้ามทัพทั้งสองฝ่ายเสีย และให้ถ้อยคำเตือนสติจนทั้งสองฝ่ายระงับการก่อสงครามเสียได้
เมื่อพระเจ้าวิฑูฑภะจะยกทัพไปฆ่าล้างโคตรศากยะวงศ์ พระพุทธองค์ก็เสด็จไปห้ามทัพเสีย แม้จะไม่สำเร็จก็ตาม
ครั้นเมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว เมื่อจะเกิดการทำสงครามเพื่อแย่งชิงพระบรมสารีริกธาตุ ก็ได้โทณพราหมณ์ช่วยแบ่งพระบรมสารีริกธาตุให้ เป็นการป้องกันการเกิดสงครามได้
นอกจากนี้แล้ว คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ก็ล้วนแล้วแต่ส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งสันติสุขทั้งสิ้น
จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดความขัดแย้งกันในสังคมไทยและในส่วนต่าง ๆ ของโลก เราสามารถนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้ามาเพื่อระงับการเกิดสงครามได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศีลห้า กุศลกรรมบถ เป็นต้น ในที่นี้ขอยกตัวอย่างสังคหวัตถุธรรม (ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา สมานัตตา) ซึ่งเป็นหลักธรรมเพื่อการสงเคราะห์ ผูกไมตรีกันไว้
กล่าวคือ ในส่วนของทานนั้น ถ้ารัฐบาลและประชาชนของประเทศต่าง ๆ รู้จักแบ่งปันทรัพยากรธรรมชาติอย่างเท่าเทียมกัน ก็จะไม่เกิดปัญหาอย่างการแย่งชิงดินแดน หรือชิงหมู่เกาะ หรือน่านน้ำกัน (อย่างกรณีของจีนกับญี่ปุ่น จีนกับเวียดนาม จีนกับฟิลิปปินส์)
หรือถ้ารู้จักให้อภัย (อภัยทาน) แล้ว ชนชาติที่เป็นศัตรูกันมาอย่างยาวนาน อย่างยิวกับอาหรับ สหรัฐอเมริกากับรัสเซีย ยิวกับอิหร่าน ฯลฯ ก็จะรู้จักยุติความบาดหมางที่มาอย่างยาวนาน และหันมาจับมือร่วมใจกันแก้ไขปัญหาข้อพิพาทกันได้
และการให้ธรรมะเป็นทานก็จะทำให้คนได้ตระหนักรู้ว่า การทำสงคราม ไม่ว่าจะอ้างเหตุอย่างใด (ยกเว้นเพื่อป้องกันชาติของตน) ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผิด ดังนั้น ความคิดในการทำสงครามจึงเป็นมิจฉาทิฏฐิ
สำหรับปิยวาจานั้น ก็เป็นการป้องกันไม่ให้เกิดความบาดหมาง ความขัดแย้งกันในระหว่างชนชาติต่าง ๆ หรือในระหว่างชนชาติเดียวกัน เพราะคงไม่มีใครชอบคนพูดโกหก พูดส่อเสียด ยั่วยุ พูดจาก้าวร้าวหยาบคาย
และอย่าลืมการปฏิบัติตามหลักอัตถจริยาและสมานัตตา ด้วย จึงจะสมบูรณ์
ดังนี้ เป็นต้น
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งสันติ และชาวพุทธก็เป็นผู้รักสงบ ดังนั้น คนที่เป็นชาวพุทธทุกคนจึงควรเป็นผู้เชื่อมั่นในสันติวิธี และควร (อย่างยิ่ง) ที่จะมีบทบาทในการเผยแพร่สันติวิธีออกไปให้ชาวโลกรับรู้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ต้องเกิดการสูญเสียขึ้นมาในสังคมโลกอีก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวไทยคงนำหลักธรรมนี้ไปใช้แก้ไขปัญหาบ้านเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้นะครับ
อ้างอิง
[๑] http://www.gotoknow.org/posts/243664
[๒] http://th.wikipedia.org/wiki/พระบรมสารีริกธาตุ
[๓] http://www.learntripitaka.com/scruple/sank4.html
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น